รักที่ปวดใจ
อันนี้เรื่องสั้นของเราอ่ะ ช่วยเม้นท์หน่อยจิ
ผู้เข้าชมรวม
338
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บางที การหลงรักหรือแอบชอบใครสักคนก็อาจหาเหตุผลไม่ได้เหมือนกัน และเขาคนนั้นก็จะไม่ใช่คนที่ดีเลิศเลอสักเท่าไหร่เหมือนกัน เพียงแต่สิ่งที่ทำให้ฉันประทับใจ ก็คือรอยยิ้มที่สวยงาม กับการแสดงออกที่จริงใจ(แม้ว่าใครๆจะหาว่าเขาบ้าไปบ้างก็ตาม) ฉันก็เลยคิดเผลอจินตนการไปนิดว่า ถ้าเกิดโชคดีเราสองคนได้เป็นแฟนกัน มันคงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว เวลาที่ฉันเฝ้ามองเขาส่วนใหญ่ก็จะเป็นตอนที่อยู่ที่โรงเรียนนี่แหละ ในทุกๆเช้าของวันถ้าเพลงโรงเรียนไม่ขึ้น(เพลงรร.ขึ้นเจ็ดโมงครึ่ง เพื่อที่จะให้นร.เตรียมตัวเข้าแถมเคารพธงชาติ)ใบหน้าและรอยยิ้มทีสวยงามนั้นก็ไม่ปรากฎให้ใครได้เห็นเป็นอย่างแน่นอน ส่วนตอนเที่ยงทเขาก็มีหน้าที่คอยซื้อน้ำอัดลมให้เพื่อนในกลุ่มทานอยู่เสมอๆ และฉันก็มักจะเห็นเขาเดินประกบคู่กอดคอกับพี่พั้นซ์เพื่อนสาวตัวเล็วเหมือนเด็กที่เขาสนิทที่สุดอยู่บ่อยๆ หรือแม้แต่ตอนกลับบ้านฉันก็ยังเห็นเขาเล่นบาสเพื่อฆ่าเวลาในการรอแม่มารับตั้งแต่บ่ายสามยันหกโมงเย็น แต่บางทีเขาก็นั่งคุยกับเพื่อนอยู่ในศาลาเหมือนกัน ไม่อยากจะบอกว่าเขาเป็นคนแรกเลยนะ ที่ทำให้ฉันโดดซ้อมวงโยฯตอนเช้า เพราะเขาอยู่ม.3/7 ส่วนฉันอยู่ม.2 /2 ทำให้แถวเราอยู่ใกล้กัน(ม.ต้นมี8ห้อง) ฉันจึงได้เห็นเขายยคุยกับเพื่อนในกลุ่มอย่างไม่สะทกสะท้านอ.ที่ยืนอยู่หลังแถว (ทั้งๆที่กลุ่มของเขาก็อยู่ด้านหลังสุด)แม้แต่นิดเดียว แถมยังสนุกกับการโดน อ.ดุว่าคุยในแถวอีกด้วย (แปลกคนจริงๆ)
ฉันคงไม่บ้าหรอกนะที่จะแอบชอบคนที่มีสิวเต็มหน้า แถมตัวเตี้ยอีกต่างหาก(บางครั้งยังรู้สึกว่าฉันสูงกว่าเขาด้วยซ้ำอ่ะ) ก็ฉันไม่ใช่คนที่จะชอบใครด้วยหน้าตานี่นา แต่สิ่งที่ทำให้ฉันประทับใจก็คงจะเป็น ความเป็นตัวของตัวเอง แน่ๆเลยก็กลุ่มเขาน่ะ ใช่จะเป็น เด็กดีเหมือนใครๆน่ะสิ วันๆนึง ฉันเห็นเพื่อนๆในกลุ่มเขาโดน อ.เรียกไปต่อว่า หรือไม่ก็เข้าห้องปกครองไม่เว้นแต่ละวัน แต่ก็ไม่เห็นว่าเขาจะโดนเรื่องอะไรเลย เพราะถึงเขาจะมีเพื่อนเกเร แต่เขาก็ไม่ได้ทำตัวเกเรตามเพื่อนๆของเขา ตรงนี้แหละมั้ง ที่ทำให้ฉันประทับในตัวเขาที่สุด(เว้นแต่ภาษาพ่อขุนราม ที่เขาพูดกับเพื่อนๆในกลุ่มเท่านั้นแหละ)ตอนที่ฉันบอกเพื่อนๆในกลุ่มว่า ฉันชอบเขา แต่ละคนก็ช็อกไปตามๆกันเลยล่ะ และอยู่ดีๆพวกมันก็พูดว่า แกคงได้แค่แอบรักเท่านั้นแหละ ตอนนั้นฉันก็คิดแบบที่พวกมันพูดนะ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วสิ หัวใจของฉันมันเรียกร้องอยากจะว่าอยากจะรับรู้เรื่องของเขามากขึ้น แต่มันก็ไม่ง่ายเลย เขาเป็นคนข่อนข้างลึกลับและไม่ไว้ใจที่จะเล่าเรื่องส่วนตัวและความรู้สึกให้ใครได้ฟังง่ายๆ เพราะตลอด 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ไม่ว่าฉันจะให้เพื่อนมาขอข้อมูลจากเพื่อนๆในกลุ่มของเขา ก็ได้แค่ข้อมูลเรื่องที่ฉันรู้แล้ว ว่าเขารักบาสกับเบสยิ่งชีพ ดูแลเกรดเฉลี่ยเหมือนดูแลชีวิต กลัวแม่เหนือสิ่งอื่นใด ก็เท่านั้น พอไปถามพี่พั้นซ์ ก็ได้แต่คำว่า "พี่ไม่ได้อนุญาตให้พูดน่ะ เอางี้ ถ้าน้องอยากรู้ก็ไปถามเจ้าตัวเองแล้วกัน" พอเพื่อนของฉันไปถามเขาด้วยตัวเอง ก็ได้แต่รอยยิ้มและประโยคที่ว่า "ถ้าอยากรู้ก็ให้เจ้าตัวเขามาถามเองแล้วกันนะ" ฉันเลยต้องโผล่หน้าไปให้เขาเห็นเพราะมันใกล้จะปิดเทอม1 แล้ว และฉันแอบรู้มาว่า เขาจะไปเรียนต่อม.ปลายที่อื่น ก็เลยอยากจะได้เบอร์ของเขาเอาไว้แก้เหงาบ้างก็ดี ในที่สุดฉันได้เบอร์มา เราก็คุยกันบ้างเป็นบางครั้งเพราะฉันไม่รู้ว่าโทรไปรบกวนเขารึเปล่า พอเปิดเทอม 2 เราได้เจอกันเป็นบางครั้งเวลาเจอกันเขาก็ยิ้มหรือไม่ก็ยักคิ้วทักฉัน เขาเคยถามว่านึกอย่างไงถึงมาตีสนิทกับเขา เพราะไม่ค่อยมีรุ่นน้องที่ไหนอยากทำความรู้จักกับเขาสักเท่าไหร่ พอฉันถามเขากลับว่า แล้วพี่ล่ะนึกยังไงถึงให้รุ่นน้องที่รู้จักกันมาก่อนมานั่งคุยด้วยอย่างสนิทสนม เค้าก็ให้รอยยิ้มที่สวยงามให้ฉันเหมือนเดิม เวลาผ่านไปหลายเดือน ฉันว่า ฉันควรจะถามเขาแล้วล่ะ ว่าเขารู้สึกอย่างไรกับฉัน วันนั้นเป็นวันจันทร์ฉันจำได้ดี ฉันถามเขาว่าพี่รู้สึกอย่างไงกันแน่ ตอนนั้นเขากำลังสอนฉันเล่นบาสอยู่ มันเป็นเวลาที่ฉันมีความสุขมาก เลยเผลอปากถามออกไป แล้วฉันก็ได้รอยยิ้มพิมพ์ใจออกมาเหมือนเดิม จนฉันทนไม่ไหวเลยลองเอ่ยปากถามเพื่อนว่า " แกว่าพี่เขาคิดยังไงกับฉัน" แล้วเพื่อนๆในกลุ่มของฉันก็เอ่ยปากมาในทำนองว่า "ก็แค่รุ่นพี่กับรุ่นน้องแหละ เพราะเห็นพี่เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรกับแกมาก มีแต่แกอ่ะแหละที่คอยตามเขาต้อยๆอ่ะ" ตอนนั้นฉันเลยกังวลคิดไปต่างๆนาๆ ในตอนกลางวันฉันเอาลูกอมรูปหัวใจที่ใครก็รู้จักกันดี ข้างหลังเขียนคำว่า 'ชอบ'พอเขาเห็นก็ยิ้มแล้วหันหลังไปกระซิบอะไรกับที่พั้นซ์สักอย่างทำให้พี่พั้นซ์หัวเราะจนน้ำหูน้ำตาไหลที่เดียว พอตอนกลับบ้านฉันก็เจอกับพี่เมย์(เพื่อนที่เป็นทอมในกลุ่มของพี่เขา) เราสองคนเลยเดินกลับบ้านไปด้วยกัน ฉันนึกสนุกก็เลยแกล้งถามไปว่า 'พี่เขาคบกับพี่พั้นซ์แค่เพื่อนรึเปล่าเนี่ย เห็นตัวติดกันตังเม' พี่เมย์ได้ยินอย่างนั้นก็ หน้าซีดลงไป สักพักก็ยิ้มกลับมาแล้วบอกว่า 'ลองควงพั้นซ์ไปให้ไอ้ว่านดูดิ แล้วก็จะรู้เอง'
เช้าวันต่อมา ฉันมาโรงเรียนแต่เช้าเพื่อจะลองไปให้พี่พั้นช่วย แต่หูเจ้ากรรมก็ดันได้ยินเหมือนเสียงของพี่เมย์คุยกับใครก็ไม่รู้ที่ห้องใต้บันไดซะก่อน "เมื่อวานกูได้เดินกลับบ้านกับน้องผู้น่ารักของมึงด้วย"
"แล้วมึงมาบอกกูทำไม แค่มึงกับกระต่ายน้อยของกูกลับบ้านด้วยกันแค่นั้นเอง"เอ๋ เสียงของพี่เขานี่นา
"ก็อยู่ดีๆกระต่ายน้อยมึงดันมาถามว่า มึงกับพั้นซ์เป็นแฟนกันรึเปล่าน่ะสิ เอาซะกูตกใจเลย"
"แล้วมึงบอกกระต่ายน้อยของกูว่าไปว่าไง"น้ำเสียงของพี่เขาดูเป็นกังวลนิดๆ
"กูบอกไปว่า ลองให้น้องเขาควงพั้นซ์ไปให้มึงดูสิ แล้วก็รู้ แค่นั้นแหละ"
"ก็ดีแล้ว เรื่องนั้นเดี๋ยวกูจัดการเอง"
"เฮ้ย ว่าน กูว่าน้องเขาเอาจริงว่ะ มึงอย่าไปทำให้น้องเขาเสียใจเลย อีกอย่างมึงก็มีไอพั้นซ์อยู่ทั้งคนไม่ใช่หรอ อย่าไปยุ่งกับน้องเขาเลย" หา!! อย่างนี้ก็หมายความว่า พี่เขาเป็นแฟนกันพี่พั้นซ์อย่างที่ฉันคิด(เล่นๆ)จริงๆน่ะสิ มิน่าล่ะ เมื่อวานตอนที่ฉันถามเรื่องนี้กับพี่เมย์พี่เขาถึงหน้าซีดลงไป แต่จะว่าไปฉันได้ยินแบบนี้ก็ดีกว่าที่จะได้ยินจากปากของพี่พั้นซ์แล้วไปหน้าแตกกลางโรงอาหารหรือไม่ก็ต้องโดนพี่พั้นซ์ตบแน่ๆเลย ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนน้ำตากำลังจะไหล ยืนแทบไม่อยู่มือไม้รู้สึกจะไร้เรี่ยวแรงไปหมด ไม่น่าเลยจริงๆ ฉันไม่น่าโง่ไปเป็นของเล่นให้พี่เขาเล่นเพื่อผ่อนคลายเลยเลย ไม่น่าเลยจริงๆ แต่เอาเป็นว่า ฉันก็ต้องขอบคุณพี่เขาเหมือนกัน ขอบคุณที่พี่เขาได้สอนให้ฉันได้รู้จักกับคำว่า 'รัก' และ 'อกหัก' ขอบคุณจริงๆ
ผลงานอื่นๆ ของ เศษแก้วกลางดวงใจ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เศษแก้วกลางดวงใจ
ความคิดเห็น